วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ส่งงานแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 5- 7นางสาวจริยา คำสุรีย์ กจ.2/1 ระบบสารสนเทสเพื่อการจัดการ

คำถามทบทวนบทที่  5
1.  เราสามารถจำแนกการจัดการแฟ้มข้อมูลออกเป็นกี่แบบ  อะไรบ้าง
ตอบ  เราสามารถจำแนกการจัดการแฟ้มข้อมูลออกเป็น  2  แบบดังต่อไปนี้
                1.  การจัดแฟ้มข้อมูลแบบเรียงลำดับ  (Sequential File Organization) เป็นวิธีการจัดเก็บและรวบรวมระเบียบ 
                2.  การจัดแฟ้มข้อมูลแบบสุ่ม  (Random File Organization) เป็นวิธีการจัดรวบรวมระเบียบข้อมูลที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลโดยตรง และไม่ต้องผ่านระเบียบอื่นตามลำดับก่อนหลัง


2.  จงอธิบายความหมาย  ตลอดจนข้อดีและข้อจำกัดของการจัดการแฟ้มข้อมูลแบบสุ่ม
ตอบ  การจัดการแฟ้มข้อมูลแบบสุ่ม  (Random File Organization) เป็นวิธีการจัดรวบรวมระเบียบข้อมูลที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลโดยตรง และไม่ต้องผ่านระเบียบอื่นตามลำดับก่อนหลัง  
                การจัดแฟ้มข้อมูลแบบสุ่มมีข้อดีดังนี้
                1.  การเข้าถึงข้อมูลสะดวกและรวดเร็ว 
                2.  สะดวกในการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัย
                3.  มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับงานที่ต้องการประมวลผลแบบโต้ตอบ
                การจัดการแฟ้มข้อมูลแบบสุ่มจะมีข้อจำกัดดังนี้
                1.  ข้อมูลมีโอกาสผิดพลาดและสูญหาย  เนื่องจากการดำเนินงานมีความยืดหยุ่น
                2.  การเปลี่ยนแปลจำนวนระเบียบจะทำได้ลำบากกว่าวิธีเรียงลำดับ
                3.  มีค่าใช้จ่ายสูง  เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีสูง


3.  ฐานข้อมูลคืออะไร  และเหตุใดจึงมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน
ตอบ   ฐานข้อมูล  (Database)  หมายถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีแบบแผน  ที่ใดที่หนึ่งในองค์การ เพื่อที่ผู้ใช้จะสามารถนำข้อมูลมาประมวลผล และประยุกต์ใช้งานตามที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


4.  เราสามารถจำแนกแบบจำลองโครงสร้างข้อมูลเชิงตรรกะออกเป็นกี่ประเภท  อะไรบ้าง
ตอบ  โครงสร้างข้อมูลเชิงตรรกะออกเป็น  3  ประเภท  ดังต่อไปนี้
                1.  แบบจำลองการจัดข้อมูลเชิงลำดับขั้น  (Hierarchical  Data  Model)
                2.  แบบจำลองการจัดการข้อมูลแบบเครือข่าย  (Network Data Model)
                3.  แบบจำลองการจัดข้อมูลเชิงสัมพันธ์  (Relational Data Model)

5.  จงเปรียบเทียบประโยชน์ในการใช้งานของแบบจำลองโครงสร้างข้อมูลแต่ละประเภท
ตอบ   ตารางเปรียบเทียบการใช้งานของแบบจำลองการจัดการข้อมูล

ชนิดของแบบจำลอง
ประสิทธิภาพการทำงาน
ความยืดหยุ่น
ความสะดวกต่อการใช้งาน
เชิงลำดับขั้น
สูง
ต่ำ
ต่ำ
เครือข่าย
ค่อนข้างสูง
ค่อนข้างต่ำ
ปานกลาง
เชิงสัมพันธ์
ต่ำ  (กำลังพัฒนา)
สูงหรือต่ำ
สูง



6.  ระบบจัดการฐานข้อมูลคืออะไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง
ตอบ  ระบบการจัดการฐานข้อมูล  (Database  Management  System;  DBMS)  หมายถึงชุดคำสั่งซึ่งทำหน้าที่สร้าง  ควบคุม  และดูแลระบบฐานข้อมูล  เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูล  คัดเลือก  ข้อมูล  และสามารถนำข้อมูลนั้นมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


7.  จงอธิบายความหมายและประโยชน์ของพจนานุกรมข้อมูล
ตอบ  พจนานุกรมข้อมูล  (Data Dictionary) เป็นเครื่องมือที่จัดเรียบเรียงความหมายและอธิบายลักษณะที่สำคัญของข้อมูลในฐานข้อมูลเข้าไว้ด้วยกันอย่างเป็นระบบและระเบียบ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นคว้าและนำไปใช้อ้างอิงในอนาคต เนื่องจากอาจมีการพัฒนาระบบฐานข้อมูล เปลี่ยนแปลงผู้บริหารฐานข้อมูล หรือเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต


8.  นักบริหารฐานข้อมูลมีหน้าที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ  หน้าที่สำคัญของนักบริหารฐานข้อมูลมีดังนี้
                1.  ประสานงานกับผู้จัดการแฟ้มข้อมูล  (File Manager) ในการจัดเก็บ เรียกใช้ และแก้ไขข้อมูล
                2.  ควบคุมความสมบูรณ์แน่นอนของข้อมูลให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมกับการใช้งานตลอดเวลา       
3.  ควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลมิให้ถูกจารกรรม  ก่อการร้าย  สูญหาย  หรือถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ
4.  ดูแลรักษาข้อมูลให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม ตลอดจนสร้างระบบข้อมูลสำรองขึ้น
5.  ควบคุมความต่อเนื่องและลำดับในการทำงานที่เหมาะสม


9.  เหตุใดบางองค์การจึงต้องมีหัวหน้างานด้านสารสนเทศ  (CIO)  และ CIO มีหน้าที่และความรับผิดชอบอย่างไร
ตอบ  รองประธานบริษัท ผู้อำนวยการ หรือหัวหน้างานด้านสารสนเทศ ตามแต่การแบ่งงานขององค์การ ขณะที่บางองค์การได้แยกหน่วยงานทางด้านสารสนเทศออกเป็นอิสระจากองค์การเดิม


10.  จงอธิบายแนวโน้มของเทคโนโลยีฐานข้อมูลในอนาคต
ตอบ  ต้องมีความถูกต้อง รวดเร็ว และปลอดภัย ส่งผลให้องค์การไม่จำเป็นต้องทำการรวบรวมและประมวลผลข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ศูนย์กลาง
 
คำถามทบทวนบทที่  6
1.  ระบบเครือข่ายสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์มีอิทธิพลต่อการพัฒนา  และการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจอย่างไร
ตอบ  เป็นระบบสารสนเทศที่เปรียบเสมือนระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการทำงานภายใน รับสัมผัส และตอบสนองต่อภายนอก


2.  ระบบเครือข่ายแบ่งออกเป็นกี่ชนิด  อะไรบ้าง
ตอบ  ระบบเครือข่ายแบ่งออกเป็น  4  ชนิด  ดังนี้
                1.  ระบบเครือข่ายเฉพาะพื้นที่  (Local Area Network; LAN) เป็นระบบเครือข่ายที่ใช้เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ
                2.  ระบบเครือข่ายเฉพาะเขตเมือง  (Metropolitan Area Network; MAN) เป็นระบบเครือข่ายที่ต่อเชื่อมและครอบคลุมพื้นที่กว้างพอสมควร
                3.  ระบบเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่  (Wide Area Network; WAN) เป็นระบบเครือข่ายสื่อสารที่ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าระบบเครือข่ายเฉพาะเขตเมือง
                4.  ระบบเครือข่ายระหว่างประเทศ  (International Network) เป็นระบบเครือข่ายสื่อสารที่เชื่อมโยงระหว่างประเทศ 


3.  ระบบเครือข่ายเฉพาะพื้นที่  (LAN)  และระบบเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ (WAN) มีความแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ  ระบบเครือข่ายเฉพาะพื้นที่  (LAN)  เป็นระบบเครือข่ายที่ใช้เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในระยะใกล้เข้าด้วยกัน ส่วนระบบเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ (WAN) เป็นระบบเครือข่ายสื่อสารที่เชื่อมโยงระหว่างประเทศ โดยที่ระบบเครือข่ายระหว่างประเทศทักใช้สายเคเบิลหรือดาวเทียมเป็นช่องทางการสื่อสารข้อมูล


4.  จงเปรียบเทียบคุณสมบัติและประสิทธิภาพของช่องทางการสื่อสารข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ตอบ  ช่องทางการติดต่อสื่อสารเป็นตัวกลางที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เพื่อที่จะให้ช่องทางส่งสัญญาณและส่งผ่านข้อมูลระหว่างกัน


 5.  รูปแบบของโทโปโลยีของเครือข่ายแบ่งออกเป็นกี่แบบ  อะไรบ้าง
ตอบ   รูปแบบของโทโปโลยีมี  4  แบบดังนี้
                1.  โทโปโลยีแบบบัส  (Bus Topology) เป็นโทโปโลยีที่ได้รับนิยมใช้กันมากที่สุดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
                2.  โทโปโลยีแบบวงแหวน  (Ring Topology) เป็นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าเป็นวงกลม
                3.  โทโปโลยีแบบดาว  (Star Topology) เป็นการเชื่อมโยงการติดต่อสื่อสารที่มีลักษณะคล้ายรูปดาวหลายแฉก
                4.  โทโปโลยีแบบผสม  (Hybridge Topology) เป็นเครือข่ายการสื่อสารข้อมูลแบบผสมระหว่างเครือข่ายแบบใดแบบหนึ่งหรือมากกว่า


6.  ช่องทางการติดต่อสื่อสารแบ่งออกเป็นกี่ลักษณะ  อะไรบ้าง
ตอบ  ช่องทางการติดต่อสื่อสารแบ่งออกเป็น  2  ช่องทาง
                1.  การสื่อสารแบบมีสาย  (Wired Transmission Systems) เป็นการสื่อสารข้อมูลผ่านสายนำสัญญาณ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ สายโทรศัพท์
                2.  ระบบสื่อสารแบบไร้สาย  (Wireless Transmission System) เป็นการสื่อสารโดยแปรรูปสัญญาณและส่งสัญญาณผ่านไปในอากาศ โดยไม่มีสายนำสัญญาณเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์สื่อสาร


7.  สายเกลียวคู่หรือสายโทรศัพท์  สายโคแอกเซียล  และสายใยแก้วนำแสง  มีความแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ  สายเกลียวคู่หรือสายโทรศัพท์  ประกอบด้วยเส้นลวดสองเส้นพันกันเป็นเกลียว  โดยมีฉนวนห่อหุ้มเส้นลวดเกลียวคู่แต่ละเส้นไว้  สายโคแอกเซียล มีลักษณะเป็นสายทรงกระบอกที่ทำด้วยทองแดง  และมีลวดนำอยู่ตรงกลาง  ส่วนสายใยแก้วนำแสง  มีลักษณะเป็นเส้นบาง ๆ  คล้ายเส้นใยแก้ว  โดยข้อมูลจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณแสงและส่งผ่านไปตามเส้นใยด้วยความเร็วแสง
8.  จงอธิบายความแตกต่างระหว่างสัญญาณแบบแอนล็อก  กับสัญญาณแบบดิจิตอล
ตอบ  สัญญาณแบบแอนะล็อก  จะเป็นสัญญาณแบบต่อเนื่องระดับของสัญญาณ  จะเปลี่ยนแปลงสูงหรือต่ำอย่างต่อเนื่อง  ส่วนสัญญาณแบบดิจิตอลจะประกอบขึ้นจากระดับสัญญาณเพียง  2  ค่า คือ  สัญญาณระดับสูงสุดและสัญญาณระดับต่ำสุด
 
คำถามทบทวนบทที่  7
1.  จงอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการและการตัดสินใจ
 ตอบ    การจัดการก็คือ กิจกรรมต่างๆที่แต่ละองค์การจะต้องทำ เช่น การเข้าประชุม การวางแผนงาน    การติดต่อกับลูกค้า จัดงานเลี้ยงเปิดตัวสินค้า โดยที่ Henri Fayol ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส ได้กล่าวถึงหน้าที่หลักในการจัดการไว้ 5 ประการด้วยกันคือ การวางแผน การจัดองค์การ การประสานงาน การตัดสินใจและการควบคุม จะเห็นว่าการตัดสินใจก็เข้ามามีบทบาทสำคัญเช่นกัน องค์การจะประสบความสำเร็จหรือประสบความล้มเหลวในการดำเนินกิจการต่างๆ นับว่ามีส่วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ การเลือกโอกาส หรือแก้ปัญหาของผู้บริหารเป็นสำคัญ

2.  เราสามารถจำแนกการตัดสินใจภายในองค์การออกเป็นกี่ระดับ  อะไรบ้าง
ตอบ  การตัดสินใจมี  3  ระดับดังนี้
                1.  การตัดสินใจระดับกลยุทธ์
                2.  การตัดสินในระดับยุทธวิธี
                3.  การตัดสินใจระดับปฏิบัติการ

3.  เราสามารถแบ่งกระบวนการตัดสินใจออกเป็นกี่ขั้นตอน  อะไรบ้าง
ตอบ    เราสามารถแบ่งกระบวนการตัดสินใจออกเป็น  3 ขั้นตอน คือ
                1.  การใช้ความคิดประกอบเหตุผล
                2.  การออกแบบ
                3.  การคัดเลือก

4.  การตัดสินใจมีกี่ประเภท  อะไรบ้าง
ตอบ    การตัดสินใจมี 3 ประเภท คือ
                1.  การตัดสินใจแบบมีโครงสร้าง
                2.  การตัดสินใจแบบไม่มีโครงสร้าง
                3.  การตัดสินใจแบบกึ่งโครงสร้าง

5.  การตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอน  และการตัดสินใจแบบไม่มีโครงสร้าง  มีความสัมพันธ์กันอย่างไร
ตอบ  เป็นการตัดสินใจเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ ไม่อาจจะวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า และมักจะเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลากหลาย ตลอดจนมีความสัมพันธ์กับอนาคต

6.  จงอธิบายความหมายของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
ตอบ  ระบบสนับสนุนการตัดสินใจเป็นระบบสารสนเทศที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ โดยที่ระบบนี้จะรวบรวมข้อมูลและแบบจำลองในการตัดสินใจที่สำคัญ เพื่อช่วยผู้บริหารในการตัดสินปัญหาแบบกึ่งโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง

7.  DSS มีส่วนประกอบอะไรบ้าง จงอธิบายอย่างละเอียด
ตอบ        1.  อุปกรณ์ เป็นส่วนประกอบแรกและเป็นโครงสร้างพื้นฐานของ DSS โดยอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบสนับสนุนการตัดสินใจจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
                     - อุปกรณ์ประมวลผล 
                     - อุปกรณ์สื่อสาร
                     - อุปกรณ์แสดงผล DSS
                2.  ระบบการทำงาน มีนักวิชาการหลายท่านให้ความเห็นว่า ระบบการทำงานเป็นส่วนประกอบหลักของ DSS เพราะถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในการที่จะทำให้ DSS ทำงานได้ตามวัตถุประสงค์และความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งระบบการทำงานจะประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ 3 ส่วนดังนี้
                     - ฐานข้อมูล
                     - ฐานแบบจำลอง
                     - ระบบชุดคำสั่งของ DSS
                3.  ข้อมูล เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกส่วนของ DSS ไม่ว่า DSS จะประกอบด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย และได้รับการออกแบบระบบการทำงานให้สอดคล้องกันและเหมาะสมกับการใช้งานมากเพียงใด ถ้าข้อมูลที่นำมาใช้ในการประมวลผลไม่มีคุณภาพเพียงพอ แล้วก็จะไม่สามารถช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของผู้ใช้ได้อย่างเหมาะสม
                4.  บุคลากร เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ เนื่องจากบุคคลจะเกี่ยวข้องกับ DSS ตั้งแต่การกำหนดปัญหาและความต้องการ การพัฒนา การออกแบบและการใช้ DSS ซึ่งเราสามารถแบ่งบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับ DSS ออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้
                     - ผู้ใช้
                     - ผู้สนับสนุน

8.  การพัฒนา  DSS มีความเหมือนหรือความแตกต่างจากการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการประเภทอื่นอย่างไร
ตอบ  DSS จะแตกต่างจากระบบสารสนเทศสำหรับการปฏิบัติการที่แลกเปลี่ยน เก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลคือ DSS จะจัดการกับข้อมูลให้เป็นสารสนเทศที่เหมาะสมกับการตัดสินใจของผู้ใช้ โดย DSS จะใช้ข้อมูลที่ประมวลผลจากระบบการปฏิบัติการมาจัดระเบียบ และวิเคราะห์ตามคำสั่งและความสนใจของปัญหา นอกจากนี้ DSS ยังช่วยเร่งพัฒนาการและความเข้าใจในศักยภาพการทำงานของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ครอบคลุม มากกว่าการปฏิบัติงานประจำวัน 

9.  ปัจจุบันองค์การสามารถพัฒนา  DSS  อย่างไร
ตอบ        1.  การวิเคราะห์ระบบ เป็นขั้นตอนแรกในการพัฒนา DSS โดยมีเป้าหมายเพื่อที่จะกำหนดถึงปัญหา ตลอดจนวิเคราะห์หาขั้นตอนที่สำคัญในการตัดสินใจแก้ปัญหานั้นๆ
                2.  การออกแบบระบบ จะเป็นระบบสารสนเทศที่มีความพิเศษในตัวเองที่สามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปเรื่อยๆ ผู้ออกแบบควรจะออกแบบให้ระบบมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับตัวได้ตามความเหมาะสมและมีความสะดวกต่อผู้ใช้
                3.  การนำไปใช้ DSS จะแตกต่างจากระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการโดยทั่วไป ที่ผู้ใช้จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบจากแรกเริ่มต้นจนถึงสภาวะปัจจุบัน และจะพัฒนาต่อไปในอนาคต

10.  จงอธิบายความหมายและประโยชน์ของระบบสนับสนุนการตัดสินใจสำหรับกลุ่ม  (GDSS)
ตอบ  ประโยชน์ของ GDSS มีดังนี้
                1.  ช่วยในการเตรียมความพร้อมในการประชุม
                2.  มีการจัดเตรียมข้อมูลและสารสนเทศที่เหมาะสมในการประชุม
                3.  สร้างบรรยากาศในการร่วมมือกันระหว่างสมาชิก
                4.  สนับสนุนการมีส่วนร่วมและกระตุ้นการแสดงความคิดเห็นของสมาชิก
                5.  มีการจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังของปัญหา
                6.  ช่วยให้การประชุมบรรลุผลในระยะเวลาที่สมควร
                7.  มีหลักฐานการประชุมแน่ชัด

 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น